หากคุณทำ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุณสามารถนำรถเข้าเเจ้งประกันเพื่อเคลมดูเเลรถได้เลย ไม่ว่าจะเป็นรอยบนกระจกเล็กหรือใหญ่ เพราะ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สินทั้งของเรา แม้ไม่มีคู่กรณีนั่นเอง
จอดรถในห้างสรรพสินค้า และถูกรถที่ไหนไม่รู้มาชน หาตัวคู่กรณีไม่ได้ หรือถูกชนแล้วหนีนั่นเอง ซึ่งหากทำประกันรถชั้น 1 เอาไว้ก็สบายใจได้ เพราะให้ความคุ้มครองครอบคลุม แต่อาจต้องเสียค่า Excess ด้วย แต่สำหรับใครที่ทำประกันรถชั้นอื่นเอาไว้จะไม่ได้รับความคุ้มครองในส่วนนี้
หากรถยนต์ที่จอดอยู่ในที่ห้ามจอดเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ถ้ามีคู่กรณีและรถของคุณทำประกันรถชั้น 1, 2+ และ 3+ เอาไว้ ประกันรถก็ยังคงให้ความคุ้มครอง เพราะอย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่ารถคันที่ชนจะเป็นฝ่ายผิด แม้รถของคุณจะจอดอยู่ในที่ห้ามจอดก็ตาม ซึ่งทางบริษัทประกันรถจะไปเรียกร้องค่าเสียหายจากฝ่ายคู่กรณีมาให้เราเอง และรับเคลมทุกกรณีไม่ว่าจะถูกชนเองหรือประมาทร่วมก็ตาม
เช่นเดียวกันหากคุณเป็นฝ่ายขับรถไปชนรถที่จอดอยู่ในที่ห้ามจอด ประกันรถของคุณก็จะชดใช้ค่าเสียหายให้ไม่ว่าจะทำประกันรถชั้นไหนเอาไว้ก็ตาม แต่ในส่วนค่าเสียหายของรถเราเองนั้น ประกันรถจะรับเคลมเฉพาะ รถที่ทำประกันรถชั้น 1, 2+ และ 3+ เอาไว้เท่านั้น หากเป็นประกันรถชั้น 2 และ 3 ธรรมดาจะไม่ได้รับความคุ้มครอง
1. โทรหาบริษัทประกัน เพื่อแจ้งเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นที่ไหน อย่างไร และหากรู้เลขทะเบียนคู่กรณีให้แจ้งบริษัทประกันให้ทราบ เพื่อที่บริษัทประกันจะตามหาคู่กรณีให้ หากไม่รู้เลขทะเบียนคู่กรณี ให้ตรวจสอบบริเวณที่ชนว่า มีกล้องวงจรปิดที่สามารถเปิดดูได้หรือไม่ เพื่อขอนำหลักฐานไปแจ้งความกับตำรวจและยืนยันกับบริษัทประกันภัย
2. ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานใช้เป็นหลักฐานแก่บริษัทประกันว่า รถของเราโดนชนอย่างไร เมื่อไหร่ หรือขอดูภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาคู่กรณี ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับบริษัทประกันในการติดตามหาคู่กรณีต่อไป
เมื่อรถยนต์ของเราถูกชนแล้วหนี และได้ทำประกันรถยนต์ไว้ด้วย จะได้ความคุ้มครองหรือไม่ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันรถยนต์ที่ได้ทำไว้ด้วย ซึ่งรายละเอียดความคุ้มครองของประกันรถยนต์ในกรณีที่ถูกชนแล้วหนี มีดังนี้
ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะได้รับความคุ้มครองเหตุการณ์ถูกชนแล้วหนี เนื่องจากประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองการชนทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี หรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม แต่ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก หรือ Excess เมื่อถูกชนแล้วหนีและจำทะเบียนรถยนต์คู่กรณีไม่ได้ ก็ต้องเสียค่า Excess เงื่อนไขละ 1,000 บาท ก่อนนำรถเข้าซ่อมเพื่อเคลมประกัน
รู้เลขทะเบียนของคู่กรณี ในกรณีถูกชนแล้วหนีและจำทะเบียนรถยนต์ได้ หรือมีกล้องหน้ารถบันทึกขณะถูกชนแล้วหนี และสามารถบันทึกรายละเอียดรถยนต์ของคู่กรณี กรณีนี้ผู้เอาประกันสามารถเคลมประกันรถยนต์ได้
ไม่รู้เลขทะเบียนของคู่กรณีหากถูกชนแล้วหนีโดยที่จำทะเบียนรถของคู่กรณีไม่ได้ อย่างนี้ก็จะไม่สามารถเคลมประกันได้ค่ะ หรือพูดง่ายๆ คือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+ จะคุ้มครองรถยนต์ของผู้ทำประกันเฉพาะเหตุรถชนกับรถ และต้องมีคู่กรณีทุกครั้ง
ช่วงล่างของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ยางรถยนต์ ล้อแม็ก เพลาล้อ ปีกนก คันชัก หรือตัวถัง หากเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เช่น ขับรถตกหลุม ก็สามารถเคลมประกันชั้น 1 ได้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันได้ทำไว้ ไม่ว่าอุบัติเหตุนั้นจะมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม โดยบริษัทประกันจะชดเชยค่าเสียหายตามจริงและอาจมีการหักค่าเสื่อมสภาพของอะไหล่ เนื่องจากชิ้นส่วนบางชิ้น เช่น ยางรถยนต์ จะมีการสึกหรอหรือเสื่อมสภาพจากการใช้งานมาอยู่ก่อนแล้ว การเคลมช่วงล่างในแต่ละครั้งจึงมีการพิจารณาค่าเสื่อมสภาพของอะไหล่แต่ละชิ้นเข้าไปประกอบด้วย